น้ำยาซักผ้าขาว ตัวช่วยกำจัดคราบให้ผ้าขาวสวยเหมือนใหม่แบบไม่ต้องกังวล

น้ำยาซักผ้าขาว ตัวช่วยกำจัดคราบให้ผ้าขาวสวยเหมือนใหม่แบบไม่ต้องกังวล

น้ำยาฟอกผ้าขาว หรือ น้ำยาฟอกขาว เหมาะสำหรับใช้งานทำความสะอาดผ้าที่เป็นสีขาวโดยเฉพาะ ด้วยโทนสีของเนื้อผ้าที่อาจสัมผัสกับสิ่งสกปรกมองเห็นได้ชัดเจนกว่าเสื้อผ้าสีอื่้น ไปจนถึงการใช้งานผ้าขาวไปนานๆ ยิ่งซักสีขาวก็ยิ่งหมองลง จนกลายเป็นผ้าเก่าสีเหลือง แม้จะเป็นผ้าที่ซื้อมาเมื่อไม่นานนี้เอง อีกทั้งคราบสกปรกบางอย่างที่ฝังรากลึกจนทำให้กลายเป็นริ้วรอยเด่นชัด แม้เพียงเล็กน้อยที่ยากกำจัดออก หากปล่อยทิ้งไว้ อาจทำให้ชุดตัวเก่งของคุณหมดเสน่ห์

น้ํายาฟอกขาว

ดังนั้นจึงจำเป็นต้องหาน้ำยาสูตรเฉพาะที่ไม่ใช่แค่ผงซักฟอกเท่านั้นมาช่วยทำความสะอาด จะได้เปลี่ยนผ้าขาวที่หมองให้กลับขาวเนี๊ยบเหมือนใหม่อีกครั้งได้แบบไม่ทำลายเนื้อผ้า ไม่ว่าคุณจะเดินทางไปเที่ยวหรือทำงานที่ไหน ก็ไม่ต้องกังวลอีกต่อไป เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดอีกวิธีหนึ่งสำหรับฟอกผ้าขาวของคุณ มีหลายยี่ห้อให้คุณได้เลือกซื้อ

คุณสมบัติและเรื่องน่ารู้ของน้ำยาฟอกผ้าขาว

น้ำยาที่ผลิตออกมาเพื่อใช้งานกับผ้าขาวโดยเฉพาะนั้นจะมีคุณสมบัติที่ช่วยกำจัดคราบและรอยเปื้อนที่อยู่บนเนื้อผ้าไปจนถึงตามเส้นใยที่ลึกเข้าไป นอกจากนี้ยังมีส่วนช่วยเพิ่มความสว่างให้ผ้าดูขาวใหม่มากขึ้น มีส่วนผสมของสารที่ช่วยกำจัดเชื้อรา เชื้อไวรัส และแบคทีเรีย โดยทั่วไปจะแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มด้วยกันคือ

1.แบบออกซิเจน – สารฟอกขาวที่มาจากสารละลายไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์บวกกับออกซิเจนผสมด้วยกัน ช่วยคงความสดใสของเนื้อผ้า จึงเหมาะกับการใช้งานสำหรับเนื้อผ้าสีขาวโดยเฉพาะ อีกทั้งยังช่วยกำจัดคราบที่มาจากสารอินทรีย์ และคราบสกปรกทั่วไปได้อย่างหมดจรด

2.แบบคลอรีน – สารฟอกขาวที่มาจากสารละลายโซเดียมไฮโปรคลอไรท์ กัดกร่อนได้มากกว่าแบบแรก จึงเน้นทำความสะอาดเฉพาะจุดเพื่อกำจัดสิ่งสกปรกที่ฝังแน่น เป็นคราบหนัก เช่น เลือด, ชา, กาแฟ เป็นต้น โดยคุณสมบัติของสารชนิดนี้ยังช่วยกำจัดเชื้อแบคทีเรียได้ในตัวอีกทางหนึ่ง

วิธีใช้น้ำยาซักผ้าขาวให้ได้ประสิทธิภาพ

การทำความสะอาดผ้าขาวด้วยน้ำยาพิเศษชนิดนี้ มีขั้นตอนง่ายๆ ที่ช่วยเปลี่ยนผ้าหมองให้กลับมามีสีสันได้ด้วยวิธีดังต่อไปนี้

  1. แช่ผ้าขาวลงในน้ำเย็น ให้น้ำท่วมผ้าสัก 2-3 นิ้ว จากนั้นค่อยเติมน้ำยาซักผ้าขาวลงไปตามอัตราส่วนที่ระบุเอาไว้ในผลิตภัณฑ์ ซึ่งแต่ละชนิดก็จะมีความเข้มข้นแตกต่างกันออกไป คนน้ำยาให้มั่นใจว่าสามารถเข้าไปกำจัดคราบได้อย่างทั่วถึง
  2. แช่ผ้าทิ้งไว้ประมาณ 5-10 นาที ไม่ควรนานกว่านี้ โดยให้กะตามความเหมาะสม ถ้าเสื้อผ้าสกปรกมาก อาจจะต้องแช่ผ้าทิ้งเอาไว้นานซักหน่อย (แต่ก็ควรอยู่ในระยะเวลาที่แนะนำ) ไม่ควรปล่อยผ้าให้ถูกแช่เอาไว้นานเกินไป เพราะเนื้อผ้าบางชนิดที่มีความไวต่อการถูกกัดกร่อน เป็นเส้นใยที่มีความบอบบาง เช่น ผ้าลินนิน ผ้าฝ้าย และผ้าเนื้อบาง เป็นต้น ถ้าแช่ทิ้งไว้นาน อาจทำให้ผ้าเสียหายจนทำให้เส้นใยขาดได้ง่าย
  3. เมื่อแช่เอาไว้ตามเวลาที่เหมาะสมแล้ว ให้ล้างผ้าด้วยน้ำเย็น โดยการเปิดก็อกน้ำให้ไหลผ่านผ้าตลอด ค่อยๆ ขยี้อย่างเบามือ เพื่อล้างเอาน้ำยาออกไป ป้องกันไม่ให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวตามมา นอกจากนี้การทำความสะอาดสารฟอกขาวออกไม่หมด จนปล่อยให้แห้ง ยังเสี่ยงทำให้เนื้อผ้าเกิดคราบเหลืองตามมาได้ด้วย
  4. เมื่อมั่นใจว่าทำความสะอาดผ้าได้ดี ไม่มีสารเคมีหลงเหลืออยู่แล้ว บิดผ้าเอาน้ำส่วนเกินออกไป แล้วนำไปตากให้แห้งตามปกติ

สิ่งที่พึงระวังในการใช้งานน้ํายาซักผ้าขาว ก็คือความปลอดภัยจากเคมีที่ใช้ทำตามสูตรของแต่ละยี่ห้อ ไม่ควรให้มือไปสัมผัสกับน้ำยาโดยตรง ถ้าน้ำยาโดนผิวหนัง ให้รีบล้างออกทันที ส่วนในขั้นตอนการล้างต้องให้มั่นใจว่าน้ำยาเคมีเหล่านี้ถูกชะล้างออกไปจนหมดแล้วจริงๆ ก่อนนำไปปั่นหมาดหรือบิดให้แห้งก่อนตาก เพื่อป้องกันไม่ให้เนื้อผ้าถูกทำลาย และไม่ให้เกิดการระคายเคืองที่ผิวหนังตามมา เพียงเท่านี้ก็จะช่วยให้ผ้าขาวขึ้นได้เหมือนใหม่ นำกลับไปสวมใส่ได้แบบไม่ต้องอายใครอีกแล้ว